การเปลี่ยนสีตัวถังรถยนต์นั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เพราะนั่นหมายถึงการลอกสีเก่าออกเพื่อเริ่มทำสีใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นวิธีการที่เสียเวลาเป็นอย่างมากสำหรับรถยนต์ที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสีตัวถังเสื่อมสภาพ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดไอเดียในการเปลี่ยนสีรถยนต์ที่ดีกว่าด้วยการ Wrap นั่นเอง เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการเปลี่ยนสีแค่ชั่วคราวๆ สามารถลอกออกแล้วเปลี่ยนสีอื่นๆ ได้ตามใจ แต่หลายๆ คนอาจสงสัยว่าวิธีนี้มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง ที่สำคัญการ Wrap รถผิดกฎหมายไหม แล้วมีขั้นตอนอะไรบ้าง วันนี้ TPS The Perfect Shine จะมาอธิบายให้คุณเข้าใจ
การ Wrap รถยนต์คืออะไร
การ Wrap รถยนต์ คือ วิธีการห่อหุ้มตัวถังรถยนต์ด้วยแผ่นฟิล์ม TPU หรือ PVC ที่คุณสมบัติในการยืดหยุ่นและผลิตมาเพื่อการ Wrap โดยเฉพาะ ใช้ความร้อนหรือน้ำ (ขึ้นอยู่กับวัสดุฟิล์ม)ในการยืดแผ่นฟิล์ม มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันชั้นสีเดิมของตัวถังจากรอยขีดข่วนที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ฟิล์มสำหรับการ Wrap รถยนต์นั้นมีให้เลือกทั้งแบบฟิล์มใสเพื่อจุดประสงค์ในการเคลือบผิวตัวถัง และฟิล์มแบบสี มี Texture ให้เลือกได้ทั้งแบบเงา แบบด้าน และ Metallic และแบบที่มีความประกายในตัว
ข้อดีและข้อเสียของการ Wrap รถยนต์
ข้อดีของการ Wrap รถยนต์
ข้อดีของการ Wrap รถยนต์นั้นมีข้อดีอยู่ 2 ประเด็นหลักๆ คือ สามารถเปลี่ยนสีตัวถังทั้งคันได้โดยไม่จำเป็นต้องทำสีพื้นเดิม ไม่ทำให้ลายเส้นของตัวถังเปลี่ยนไป อีกประเด็นก็คือสามารถป้องกันรอยขีดข่วน และสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อสีพื้นเดิมได้ดี เมื่อชั้นฟิล์มหมดอายุหรือเสื่อมสภาพสามารถลอกออกได้ โดยที่ชั้นสีเดิมของตัวถังไม่เสียหาย
ข้อเสียของการ Wrap รถยนต์
ข้อเสียของการ Wrap รถยนต์คือเรื่องของฟิล์ม PVC ที่ใช้เคลือบนั้นมีอายุการใช้งานที่จำกัด โดยเฉลี่ยอยู่ราวๆ 2-3 ปีเท่านั้น นอกจากนั้นคุณยังต้องเลือกฟิล์ม PVC ที่ได้มาตรฐานที่ดีพอ เพราะถ้าหากคุณเลือกใช้ฟิล์มคุณภาพต่ำ ชั้นกาวของฟิล์มสามารถทำลายชั้นเคลือบสีของตัวถังได้ ถ้าให้ดีควรเลือกผู้ให้บริการที่ได้มาตรฐานและเชี่ยวชาญด้านการ Wrap รถยนต์โดยเฉพาะ และควรเลือกวัสดุของฟิล์มที่ผลิตด้วย TPU ที่มีคุณสมบัติเหมือนฟิล์มใสกันรอยและมีอายุการใช้งานนานกว่าฟิล์ม PVC
การ Wrap รถผิดกฎหมายไหม
หลายๆ คนมีความสงสัยว่าการ Wrap รถผิดกฎหมายไหม ตามจริงแล้วไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายอะไร ไม่ว่าจะเป็นการ Wrap เพื่อเปลี่ยนสีทั้งคัน หรือ Wrap เพื่อเปลี่ยนสีบางส่วนก็ตาม แต่สิ่งที่เจ้าของรถยนต์ต้องทำคือการแจ้งกับกรมขนส่งทางบกเรื่องการเปลี่ยนสีตัวถังรถยนต์ใหม่ สำหรับเคสที่สีใหม่ไม่ตรงตามคู่มือจดทะเบียนรถยนต์นั่นเอง โดยเจ้าของรถยนต์มีเวลา 7 วันหลังจากเปลี่ยนสีเสร็จเรียบร้อย เพราะถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงสีรถยนต์เกิน 30% ของตัวถังเดิมโดยไม่มีการแจ้งเปลี่ยนสี ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 200-2,000 บาท
ขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์
สำหรับผู้ที่ Wrap สีรถยนต์ต่างจากสีที่แจ้งไว้ในคู่มือจดทะเบียนรถยนต์สามารถไปยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสีได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก โดยเริ่มจากเอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมมีดังนี้
- เอกสารคู่มือจดทะเบียนรถยนต์
- หลักฐานการเปลี่ยนสีรถยนต์ (สามารถใช้ใบเสร็จค่าบริการแทนได้)
- หลักฐานประจำตัวเจ้าของรถยนต์ที่จำเป็น หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
ขั้นตอนการเปลี่ยนสีรถยนต์หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อย สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
- ยื่นคำของการเปลี่ยนสีรถยนต์พร้อมเอกสารหลักฐานตามๆ ที่เตรียมไว้ เพื่อแสดงความประสงค์ในการนำรถเข้ารับการตรวจสอบจากกรมขนส่งทางบก
- หลังผ่านการตรวจสอบเรียบร้อย ให้ยื่นตรวจสอบคำขอพร้อมเอกสารต่างๆ และผลการตรวจสอบรถยนต์ที่ถูกต้อง
- ชำระค่าธรรมเนียม (ค่าธรรมเนียมการแจ้ง 50 บาท, ค่าดำเนินการตรวจสภาพ 50 บาท, ค่าคำขอ 5 บาท)
- รอรับเอกสารทั้งหมดคืนจากกรมขนส่งทางบก
สำหรับใครที่มีข้อสงสัยว่าการ Wrap รถผิดกฎหมายไหม ก็คงเข้าใจกันแล้วว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมายอะไร เพียงแค่ทำตามข้อกำหนดที่กรมการขนส่งทางบกระบุเอาไว้ เพียงเท่านี้ก็สบายใจได้ว่ารถยนต์ของคุณเปลี่ยนสีใหม่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และที่สำคัญยังเป็นการรักษาสิทธิ์ของตัวเองเพื่อป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมายที่ไม่ได้ตั้งใจ เช่น อุบัติเหตุเฉี่ยวชน การถูกสวมรอยเพื่อก่ออาชญากรรม และป้องกันการถูกโจรกรรมแล้วนำไปเปลี่ยนสีใหม่ หากใครกำลังมองหาศูนย์บริการดูแลรถยนต์ครบวงจรอยู่ละก็ TPS The Perfect Shine พร้อมให้บริการ Wrap ตัวถังที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ ทั้งการปกป้องสีเดิมและการเปลี่ยนสีด้วยเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานระดับสากล