การเคลือบแก้วมีข้อดีข้อเสียอย่างไร

รอยขีดข่วน รอยถลอก รอยขนแมว หรือรอยที่เกิดจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ถือเป็นสิ่งที่เหล่าคนรักรถมักจะกังวลเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้รถยนต์สุดรักดูไม่สวยแล้ว ยังต้องเสียเวลาไปซ่อมทำสีรถใหม่อีกด้วย ทำให้เหล่าคนรักรถส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจกับการเคลือบแก้วรถยนต์ โดยหนึ่งในวิธีที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนต่าง ๆ ได้ก็คือ “การเคลือบแก้วรถยนต์” ซึ่งถ้าหากคุณเป็นคนรักรถ แต่ยังไม่รู้จักการเคลือบแก้วก็ต้องห้ามพลาดบทความนี้! เพราะในวันนี้ TPS The Perfect Shine จะพาคุณมาทำความรู้จักการเคลือบแก้ว และข้อดีข้อเสียของการเคลือบแก้วที่น่าสนใจมาให้คุณได้ทราบกัน จะมีข้อมูลใดที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกัน

การเคลือบแก้วรถยนต์ คืออะไร? แล้วมีกี่ประเภท?

การเคลือบแก้วรถยนต์ (Glass Coating) คือ หนึ่งในวิธีการเคลือบสีรถ โดยจะเป็นการเคลือบชั้นผิวของสีรถยนต์ ด้วยน้ำยาเคลือบที่มีส่วนผสมของซิลิกา (Silica) ที่เปรียบเสมือนฟิล์มแก้วบาง ๆ มาเคลือบบนพื้นผิวรถยนต์เพื่อเพิ่มความหนาของชั้นผิวให้มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถปกป้องรักษาสี และพื้นผิวรถยนต์ให้คงสภาพเงางาม ดูเหมือนใหม่เอาไว้ได้ นอกจากนี้การเคลือบแก้วยังเป็นเกราะป้องกันอีกชั้น ทำให้สามารถป้องกันรอยขีดข่วนในระดับบาง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งการเคลือบแก้วรถยนต์สามารถแบ่งออกวิธีเคลือบได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. เคลือบแก้วรถยนต์แบบทา

การเคลือบแก้วรถยนต์แบบทา เป็นวิธีแบบดั้งเดิมที่ยังคงได้รับความนิยมมาถึงปัจจุบันนี้ เนื่องจากสามารถลงน้ำยาเคลือบแก้วได้อย่างเต็มที่ เคลือบได้หนา ทั่วถึง และทนทานกว่า ซึ่งการเคลือบแก้วรถยนต์แบบทาจะต้องมีการปรับผิวสีรถให้พร้อมก่อนการลงน้ำยาเคลือบ และต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญเป็นอย่างมาก เพราะต้องทาน้ำยาเคลือบให้ทั่วพื้นผิวและต้องไม่หนาหรือบางจนเกินไป เพื่อให้เกิดการยึดติดผิวสีและมีความหนาที่เหมาะสม

2. เคลือบแก้วรถยนต์แบบพ่น

การเคลือบแก้วรถยนต์แบบพ่น เป็นวิธีทันสมัยที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่มีความสะดวก และรวดเร็วกว่าการเคลือบแก้วแบบทา ซึ่งวิธีการเคลือบแก้วแบบพ่นก็มีวิธีคล้ายกับการพ่นสีรถยนต์ ทำให้น้ำยาเคลือบสามารถกระจายตัวไปบนสีผิวรถได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีการระเหยที่รวดเร็วโดยไม่ต้องเช็ดของเหลวออก ทำให้การเคลือบแก้วแบบพ่นมีความทนทาน เงางาม และทำให้สีรถดูสวยอยู่ตลอดเวลา

การเคลือบแก้วมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง?

ได้ทำความรู้จักการเคลือบแก้วรถยนต์กันไปพอสมควรแล้ว เชื่อว่าหลายคนก็คงจะสนใจการเคลือบแก้วรถยนต์กันขึ้นมาอย่างแน่นอน แต่ก่อนจะตัดสินใจไปเคลือบแก้วรถยนต์ ก็ควรจะมาทำความเข้าใจให้ถี่ถ้วนเสียก่อนว่า การเคลือบแก้วมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น โดยการเคลือบแก้วรถยนต์มีข้อดีข้อเสีย ดังนี้

ข้อดีของการเคลือบแก้วรถยนต์

น้ำยาที่ใช้ในการเคลือบแก้วรถยนต์ มีส่วนผสมของซิลิกาที่ช่วยสร้างเกราะป้องกันบาง ๆ ให้กับรถยนต์ รวมถึงทำให้สีของรถยนต์มีความเงางาม ดูใหม่อยู่เสมอ นอกจากนี้น้ำยาเคลือบยังมีคุณสมบัติป้องกันคราบเปื้อน และยังทำให้น้ำเกาะบนผิวรถได้น้อยที่สุดอีกด้วย ทำให้สามารถป้องกันคราบฝุ่น ฝน หรือคราบน้ำต่าง ๆ ได้ดี อีกทั้งยังสามารถลดรอยขีดข่วน รอยขนผ้า และรอยขนแมวต่าง ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ทำให้เจ้าของรถไม่ต้องล้างรถบ่อย ๆ หรือหากเกิดคราบเปื้อนหรือมีสิ่งสกปรกต่าง ๆ ติดอยู่ก็สามารถทำความสะอาดได้ง่าย 

และที่สำคัญคือ หากเลือกศูนย์บริการเคลือบแก้วที่มีได้มาตรฐาน และหมั่นดูแลรถหลังเคลือบสีรถยนต์เป็นประจำ การเคลือบแก้วรถหนึ่งครั้งก็จะสามารถอยู่ได้ยาวนาน 3-5 ปี เลยทีเดียว

ข้อเสียของการเคลือบแก้วรถยนต์

การเคลือบแก้วต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญในการทำ ดังนั้นจึงควรเลือกศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน และมีผลงานหรือรีวิวเกี่ยวกับการเคลือบแก้วที่ดูน่าเชื่อถือ นอกจากนี้การเคลือบแก้วรถยนต์ยังมีราคาค่อนข้างสูง โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นและราคาอาจสูงขึ้นไปอีก ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวถังรถยนต์ และราคาที่ศูนย์บริการแต่ละแห่งตั้งไว้ ดังนั้นจึงควรสอบถามและเปรียบเทียบราคา รวมถึงผลงานการเคลือบแก้วของศูนย์บริการแต่ละแห่งให้ดีก่อนตัดสินใจ

ข้อควรระวังของการเคลือบแก้วรถยนต์

มีต่อกันอีกเล็กน้อยกับข้อควรระวังของการเคลือบแก้วรถยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะยังเข้าใจผิด ๆ อยู่ว่า การเคลือบแก้วรถยนต์สามารถป้องกันรอยขีดข่วนหนัก ๆ ได้ เช่น รอยที่เกิดจากการเฉี่ยวชนรุนแรง, การเอาของแข็ง ๆ มาขูดขีด, การเอาฟองน้ำติดทรายมาถูรถ เป็นต้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การเคลือบแก้วไม่สามารถป้องกันรอยเหล่านี้ได้ แต่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนเบา ๆ เช่น รอยขนผ้า รอยขนแมว หรือคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้เท่านั้น

จำเป็นต้องเคลือบแก้วรถยนต์ไหม?

การเคลือบแก้วมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน ทำให้มีหลายคนที่ยังตั้งคำถามกันอยู่บ้างว่า แล้วการเคลือบแก้วรถยนต์นั้นจำเป็นจะต้องทำหรือไม่? ถ้าไม่ทำแล้วจะมีข้อเสียอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ซึ่ง TPS The Perfect Shine ก็จะต้องบอกว่า หากคุณเน้นการใช้งานเป็นหลักและไม่ได้สนใจเรื่องความสวยงามมากนัก การเคลือบแก้วก็ไม่จำเป็น 

แต่ถ้าหากคุณเป็นคนรักรถที่อยากดูแลรถให้สวยเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา หรือเป็นรถที่มีราคาแพง การเคลือบแก้วก็ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นสุด ๆ เพราะบนท้องถนนมีทั้งเศษก้อนหิน ตะปู และคราบสกปรกต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นการเคลือบแก้วจะช่วยลดความกังวลเมื่อนำรถออกไปใช้งานบนท้องถนนได้มากกว่า

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลเกี่ยวกับการเคลือบแก้วและข้อดีข้อเสีย รวมถึงข้อควรระวังที่เรารวบรวมมาให้ เชื่อว่าคงจะตอบทุกข้อสงสัยของใครหลาย ๆ คนไปได้มากพอสมควร ซึ่งถ้าหากคุณสนใจการเคลือบแก้วรถยนต์ และกำลังมองหาศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน เลือกใช้น้ำยาเคลือบที่มีคุณภาพ และเพียบพร้อมไปด้วยช่างที่มีความชำนาญ TPS The Perfect Shine ก็พร้อมดูแลรถยนต์ของคุณให้สวยเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา ด้วยการใช้น้ำยาเคลือบแก้วที่มีคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น และให้บริการโดยช่างที่มีความชำนาญในการเคลือบแก้ว